สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคนี้ ได้แก่ การติดเชื้อไวรัส Epstein-Barr (EBV) ความบกพร่องทางพันธุกรรม นอกจากนี้ ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและอาหารแปรรูปบางอย่าง อาจทำให้เกิดความเสี่ยงได้ เช่น ควันบุหรี่ ฝุ่นละออง ควันธูป และอาหารหมักเค็ม เช่น ปลาเค็ม เนื้อเค็ม เป็นต้น
การรักษามะเร็งหลังโพรงจมูกจะใช้การฉายรังสี (radiation therapy) หรือฉายรังสีร่วมกับยาเคมีบำบัด (chemotherapy) และการผ่าตัดในบางกรณี ตำแหน่งที่มักพบการแพร่กระจาย (metastasis) ของโรค จะอยู่ที่บริเวณกระดูก (ร้อยละ 70-80) นอกจากนี้อัตราการกลับเป็นซ้ำ (recurrence) ของโรคหลังการรักษา มักเกิดขึ้นในระยะ 3 – 5 ปี ทั้งนี้มะเร็งชนิดนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ หากได้รับการวินิจฉัยพบเร็วและรักษาอย่างรวดเร็ว
การรักษาด้วยยาเคมีบำบัดของโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก จะให้ควบคู่กับการฉายรังสี โดยเฉพาะกรณีที่มีมะเร็งลุกลามหรือแพร่กระจาย ยาเคมีบำบัดที่ใช้ได้แก่ Cisplatin, Fluorouracil, Paclitaxel, Gemcitabine เป็นต้น อย่างไรก็ดี ผลข้างเคียงจากการได้รับยาเคมีบำบัดเช่น คลื่นไส้ อาเจียน ผมร่วง เจ็บคอ ท้องเสีย ไม่อยากอาหาร ย่อมทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายตัวและวิตกกังวล ดังนั้นตัวเลือกที่อาจช่วยบรรเทาผลข้างเคียงของยาเคมีบำบัด เช่น สารสกัดจากธรรมชาติ จึงได้รับความสนใจจากนักวิจัยเพิ่มมากขึ้น หนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ ได้แก่ สารแคปไซซิน
สารแคปไซซิน (Capsaicin) เป็นสารประกอบที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่พบมากในพริก ให้ความรู้สึกเผ็ดร้อน แสบเมื่อสัมผัสผิวหนัง ช่วงหลายปีที่ผ่านมาสารแคปไซซินได้รับความสนใจจากนักวิจัยจำนวนมาก เนื่องจากมีศักยภาพเป็นสารต้านมะเร็ง (anti-cancer) ในมะเร็งหลายชนิด ได้แก่ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และมะเร็งลำไส้ใหญ่